เรื่อง แมว

ประวัติแมว           จากหลักฐานรูปปั้นแมว มัมมี่แมว และภาพเขียนผนังเกี่ยวกับแมวแล้ว เราเชื่อว่าได้มีการ เลี้ยงแมวในอียิปต์ มาตั้งแต่โบราณกาล (ประมาณก่อนพุทธศักราช 2,600 ปี)อียิปต์เป็นชาติแรก ที่ฝึกแมว ซึ่งเดิมเป็นสัตว์ป่าให้เชื่อง และเลี้ยงแมวไว้ในบ้านเพื่อช่วยจับหนู ช่วยให้พีชพรรณ ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ปราศจากหนูรบกวน เมื่อแมวอียิปต์ ถูกพาลงเรือสินค้าแล่นไปในทะเล เมดิเตอร์เรนียน เพื่อให้ช่วยจับหนูในเรือ เมื่อเรือจอด แมวอาจเดินขึ้นจากเรือ เพื่อเดินหยียด แข้งขา หรืออาจ แวะชมสิ่งน่าสนใจ จนลืมกลับลงเรือ แมวจึงแพร่พันธุ์ไป ในประเทศต่างๆทั่วโลก

พฤติกรรมของแมว           ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารทั้งมนุษย์และสัตว์แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ ภาษาพูด (ใช้เสียง)และภาษาท่าทาง (เป็นการใช้ อวัยวะประกอบในการสื่อสาร) แมวสามารถใช้หางในการสื่อสารบ่งบอกถึงอารมณ์ของมัน(เช่น เดียวกันกับสัตว์ชนิดอื่นๆ) ดังต่อไปนี้

ถ้าหางม้วนห้อยลง แต่ส่วนปลายหางม้วนชี้ขึ้นแสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ถ้าหางของแมวตั้งขึ้น แต่ปลายหางเอียง ไม่ว่าจะเป็นการเอียงไปข้างหน้าหรือข้างหลังแสดงว่าแมวตัวนี้กำลัง สนใจและมีความรู้สึกเป็นมิตรต่อสิ่งที่สนใจ

ถ้าหางของแมวตั้งตรง โดยที่หาง หรือปลายหางกระดิกหรือสั่นอย่างนุ่มนวลแสดงว่าแมวกำลังแสดง ความชอบความรัก

ถ้าหางของแมวนิ่งแต่ปลายหางมีการกระตุกอย่างหนักแสดงว่าแมวกำลังรู้สึกโกรธมากถ้าหางของแมวสะบัดอย่าง รุนแรงจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง แสดงว่าแมวกำลังโกร

ถ้าหางของแมวโค้งและขนตั้งชัน แสดงว่าแมวอาจจะตรงเข้าทำร้ายได้ ถ้ามีการกระตุ้น เร้าเพิ่มอีกถ้าหางของแมวทอดตัวต่ำลงและลุกพองออกแสดงว่าแมวกำลังกลัว

ถ้าหางของแมวลดตัวลงต่ำมาก บางครั้งอาจจะพบว่าซุกอยู่ระหว่างขาหลัง อาจจะแสดงว่ากำลังยอมแพ้

ถ้าหางของมันยกขึ้นเล็กน้อยและม้วนเล็กน้อยอย่างนุ่มนวลแสดงว่าแมวตัวนี้กำลังรู้สึกเริ่มที่จะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ถ้าหางตั้งตรงและปลายหางตั้งตรงในแนวดิ่ง แสดงว่าแมวกำลังมีอารมณ์ดี รู้สึกดี เป็นมิตรเมื่อได้พบกัน

ถ้าหางของแมวอยู่นิ่งๆ แต่จะมีการกระตุกเป็นครั้งคราว แสดงว่าแมว รู้สึกว่าถูกรบกวนหรือมีความกังวล ทุกข์

ถ้าหางแมวเหยียดตรงชี้ขึ้น แต่ขนที่หางลุกชัน แสดงว่แมวกำลังดุร้ายก้าวร้าว

ถ้าหางของแมวยกขึ้นและขนลุกพองออก ทำให้ดูเหมือนมีหางขนาดใหญ่ แสดงว่าแมวอาจจะมีความสุขไป กับการวิ่งไล่ขับกันไปรอบๆ

ถ้าหางของแมวทอดตัวอยู่ด้านใดด้านหนึ่ง และแมวหมอบ หรือย่อตัวอยู่หรือส่วนตะโพกสูงขึ้นแสดงว่าแมว ตัวเมียตัวนั้นพร้อมที่จะรับการผสมพันธุ์

ข้อสังเกตุ : ต้องคิดอยู่เสมอว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับแมว ณ สถานการณ์นั้นและสิ่งแวดล้อมที่แมวอยู่อย่าดูอารมณ์ของ ด้วยอาศัยท่าทางของหางของแมวแต่เพียงอย่างเดียว !!!** แมวมักจะแกว่งหางเมื่อมันกำลังอารมณ์ดี **!!! อาหารของแมว

อาหารแมว
           อาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงแมวถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อก็ตาม แต่แมวก็แตกต่างไปจากสัตว์กินเนื้อประเภทอื่นๆเรื่องความต้องการอาหารที่มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอ แมวแต่ละช่วงอายุมีความต้องการอาหารแตกต่างกันไปตั้งแต่ลูกแมว,แมวโต,แมวพ่อแม่พันธุ์,แมว ท้อง,แมวเลี้ยงลูก จนกระทั่งเป็นแมวแก่ถ้าแมวได้รับอาหารที่ดีและเพียงพอกับความต้องการของ ร่างกายในแต่ละช่วงอายุแล้ว ก็จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถอยู่กับเจ้าของได้นานๆ การที่แมวท้องใหญ่ เจ้าของแมวอาจคิดว่าเกิดจากการบำรุงเลี้ยงดูจนมีสุขภาพดีแต่แท้จริงแล้วแมว อาจเป็นโรคพยาธิก็ได้โดยเฉพาะลูกแมวการที่แมวกินข้าวคลุกปลาได้ทุกวันไม่ใช่เพราะว่าแมวชอบ แต่เพราะมันหิว หรือแมวที่จับหนกินไม่ใช่เพราะว่ามันชอบกินหนูหรือกินหนูแล้วจะแข็งแรงแต่เพราะ ว่ามันหิวเต็มที่แล้ว ถ้าแมวไม่หิว เมื่อมันจับหนูมามันจะไม่กิน แต่มันจะใช้เป็นของเล่นจนกว่าหนูจะ ตาย ดังนั้นการให้อาหารแมวจึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับความต้องการของแมวด้วย ไม่ควรให้                              มากหรือน้อยเกินไป            อาหารแมว           ผู้เลี้ยงแมวส่วนมากนิยมให้แมวกินข้าวคลุกปลา แต่ถ้าจะเลี้ยงให้มีสุขภาพสมบูรณ์ก็ควรจะ เสริมอาหารอื่นๆ เพิ่มอีกด้วย เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เครื่องในสัตว์ นม ไข่และอื่น                                                                          - เนื้อวัว เนื้อหมู ตับ ไต หัวใจ ควรทำให้สุกก่อนเพื่อป้องกันพยาธิ    - ไข่ ผสมกับข้าวให้กินทุกวันได้ยิ่งดี (ถ้าไม่ได้ ให้ผสมกับข้าวอย่างน้อยสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง )    - ปลา ต้องทำให้สุกและต้องเอาก้างออกให้หมด    - อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ก็เป็นอาหารที่แมวชอบแต่ต้องระวังอย่าให้ส่วนที่แข็งปะปนไปด้วย    - เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ให้กินเป็นครั้งคราว    - น้ำสะอาด ควรมีไว้ให้แมวกินได้ตลอดวัน    - น้ำต้มเนื้อ เป็นอาหารที่แมวกินได้ทุกวัน    - นม เป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับลูกแมวและแมวทุกวัย            หลักการให้อาหารแมว   ๑. อาหารแต่ละมื้อ ควรประกอบไปด้วยสารอาหารประเภทต่างๆ ครบถ้วนตามความต้องการของ แมวในแต่ละช่วงอายุและแต่ละพันธุ์ดังนี้   ก. เนื้อให้โปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ   ข. ไขมัน ให้พลังงาน ความร้อน และวิตามินเอและดี   ค. ข้าวและเมล็ดธัญพืชทุกชนิด ให้พลังงานและวิตามินบี และอี   ง. ผักใบเขียวดิบๆ หรือต้มไฟอ่อนๆ ให้เกลือแร่วิตามินซี และ วิตามินอื่นๆ   จ. ไข่ ตับ ให้ไขมัน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัสและวิตามินประเภทต่างๆ เช่นวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินบี เป็นต้น  ๒. ให้กินเป็นเวลาควรเริ่มต้นฝึกให้แมวกินเป็นเวลาตั้งแต่อายุ ๓ เดือน เพื่อแมวจะได้ไม่ร้องหิวให้ ้รำคาญ ไม่รบกวนอยู่รอบๆ เพื่อขออาหารกินและไม่บุกเข้าไปกินอาหารต่างๆในครัว เช่น แมวโตให้ อาหารวันละ ๒ มื้อ คือมื้อเช้ากับมื้อเย็น และให้ตรงเวลาทุกวัน ส่วนลูกแมวให้บ่อยขึ้นอาจให้วันละ ๓-๔ ครั้ง  ๓. ปริมาณอาหารที่ให้ ควรให้ครั้งละน้อยๆ แต่เพียงพอ ไม่ควรให้กินมากเกินไปเพราะจะทำให้ระบบ การย่อยอาหารต้องทำงานหนัก อาหารย่อยไม่หมด การใช้ประโยชน์จากอาหารลดลง ถ้าเห็นแมวกิน อาหารแบบเล็มๆหมายความว่าควรลดจำนวนอาหารลงถ้าแมวได้รับปริมาณอาหารเกินความต้องการ จะทำให้เกิดโรคอ้วน แมวจะอายุสั้น จึงควรจำกัดปริมาณอาหารให้สมดุลกับความต้องการ ไม่มาก หรือน้อยเกินไป โดยการวัดผลจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละสัปดาห์

สุขภาพแมว

    วัคซีนสามารถช่วยป้องกันแมวจากโรคติดเชื้อได้ แต่ท่านไม่ควรจะละเลยปัจจัยอื่นที่สำคัญพอๆกัน ในการทำให้แมวของท่านมีสุขภาพดี ได้แก่ เรื่องอาหาร และการควบคุมพยาธิ สัตวแพทย์ จะเป็นผู้ช่วยเหลือให้ท่านมั่นใจว่าท่านได้ให้การเลี้ยงดู และป้องกันอย่างดีที่สุดแก่แมวที่ท่านรัก และให้ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยให้แมวของท่านมีสุขภาพดี และยืนยาว โปรดระลึกไว้เสมอว่าแนวทาง ทางการป้องกันโรคเหล่านี้ในแมว ก็คือการนำแมวไปฉีดวัคซีนซึ่งได้ผลมากกว่า 90 % โอกาสจะ เกิดโรคจะลดน้อยลงเหลือเพียง 5 -10 % หรือถ้าเกิดโรคก็จะไม่รุนแรงมากนัก แมวต้องพึ่งพาท่าน ท่านเป็นผู้เดียวที่สามารถให้การดูแลอย่างดีที่สุดแก่เขาโปรดพาเขาไปพบสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ :: โรคของแมวที่ต้องฉีดวัคซีน :: แมวแหมียว เป็นสัตว์ที่รักอิสระ มีนิสัยชอบท่องเที่ยว ซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้ อาจนำเจ้าเหมียวให้ไปสัมผัส กับสัตว์อื่นๆ ทำให้มีโอกาสติดโรคต่างๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย มีโรคต่างๆ หลายชนิดที่เมื่อแมวเป็นแล้ว มักจะถึงแก่เสียชีวิต ได้แก่ โรคมะเร็งเม็ดเลือด (Feline Leukemia) โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบชนิด ติดเชื้อ (Feline Infectious Peritonitis)และโรคพิษสุนัขบ้า ( Rabies ) โรคไข้หัดแมว ( Feline Distemper ) โรคระบบทางเดินหายใจในแมว (Feline Respiratory Disease ) ส่วนโรคอื่นๆก็อาจ เป็นอันตรายกับลูกแมว หรือทำให้แมวโตเต็มวัยมีสุขภาพถดถอยได้ ยังนับว่าเป็นโชคดีที่มีวัคซีน เพื่อป้องกันโรคสำคัญๆในแมว วัคซีนจะช่วยปกป้องแมว จากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิด โรคต่างๆ การป้องกันจะเป็นหลักประกันว่าท่านได้ให้คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้กับแมวของท่านและเสีย ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า การรักษาเมื่อแมวเป็นโรคนั้น การฉีดวัคซีนให้แมวเป็นวิธีที่ดีที่สุดและราคาถูกสุด ในการป้องกันโรคต่างๆถ้าท่านเลี้ยงแมวโดยไม่รัการฉีดวัคซีนตามโปรแกรม แมวของท่านอาจ ล้มป่วยด้วยโรคที่ร้ายแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โปรดปรึกษาสัตวแพทย์ ถึงการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน                               โรคติดต่อในแมว :: ทำไมลูกแมวจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนหลายเข็ม:: ลูกแมวที่ยังไม่ได้หย่านมจะได้รับภูมิคุ้มกันจากน้ำนมแม่ที่ช่วยป้องกันโรคโรคภัยต่าง ๆ ในช่วงเดือน แรก ๆ ของชีวิตแต่ภูมิคุ้ม ภูมิคุ้มกันจากแม่เหล่านี้จะรบกวนการฉีดวัคซีน ทำให้วัคซีนไม่ได้ ผลดี อย่างไรก็ตามภูมิคุ้มกันจากแม่จะค่อย ๆ ลดลงในช่วง 2 - 3 เดือนแรกดังนั้นจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ลูกแมว 2 - 3 ครั้ง ในช่วงอายุ 6 - 16 สัปดาห์ เนื่องจากถ้าภูมิคุ้มกันจากแม่รบกวนการทำวัคซีนเข็มแรก วัคซีนเข็มต่อ ๆ มาจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย ลูกแมว ผลิตภูมิคุ้มกันตัวเองต่อโรคนั้น ๆ ได้

  รูปแมว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น